การทำคลอด
เมื่อหมอตำแยมาถึงต้องมีการคัดท้อง
เพื่อดูการหันหัวหันเท้าของเด็ก หากว่าเด็กหันหัวหันเท้าผิดปกติ หมอตำแยจะเอามือช้อนหรือที่เรียกว่า
"คัดท้อง" ให้เด็กอยู่ในท่าปกติทำเช่นนี้ประมาณ ๒-๓ ครั้ง เพื่อเตรียมตัวก่อนคลอด
จะทำให้เด็กคลอดง่ายและปลอดภัยแล้วหมอตำแยจะเอาน้ำมะพร้าวมานวดที่ท้อง เพื่อให้ถุงน้ำคร่ำแตกหากผู้คลอดมีเชิงกรานที่เล็กต้องดื่มน้ำอุ่นกับใบมะนาวเพื่อให้คลอดง่ายขึ้นและให้มีแรง
ในบางที่จะมีการใช้เชือกและผ้ามัดขื่อไว้ให้หญิงมีครรภ์โหนหรือเหนี่ยวรั้งขณะเบ่งคลอด
ขึ้นอยู่กับหมอตำแยที่ทำคลอดถนัดวิธีแบบไหนและอาจต้องมีคนหนุนหลัง
คอยช่วยช่วยผลักและข่มท้อง
การคลอดแบบหมอตำแยไม่มีการตัดฝีเย็บ
ปล่อยให้ฝีเย็บฉีกขาดตามธรรมชาติ บางทีอาจใช้เกลือสะอาด ที่มีแง่คม
เอามากรีดฝีเย็บช่วงที่ศีรษะเด็กโผล่ โดยฝีเย็บจะไม่มีการเย็บซ่อมแซม
ปล่อยให้หายเอง แผลที่เกิดจะทำความสะอาดโดยใช้เหล้าล้าง
แล้วตำไพลกับเกลือพอก
การตัดสายสะดือต้องผูก
โดยใช้เชือกหรือด้ายดิบเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลซึมออกมา หมอตำแยจะตัดสายสะดือด้วยผิวไม้ไผ่วางบนขมิ้นแล้วตัดโดยห่างจากสะดือเด็กไปหนึ่งนิ้วจากนั้นรีดสายสะดือไปทางฝั่งแม่
แล้ววัดจากฝั่งแม่ประมาณสองนิ้วแล้วตัดตรงกลาง สะดือทาด้วยยอดพลับพลา ขี้เต่าหรือหญ้าใต้ใบห้ามใช้มีดหรือของมีคมที่เป็นเหล็กตัด
เพราะถ้าไม่ระวังอาจจะติดเชื้อบาดทะยักได้
และการผูกสายสะดือต้องผูกให้แน่นเรียบร้อย
การคลอดจะสิ้นสุดเมื่อรกคลอด
จากนั้นหมดตำแยจะเหยียบเรียกว่า "เหยียบสุ่ม"
แล้วอาบน้ำอุ่นทำความสะอาดตัวแม่ ให้แม่ดื่มเกลือผสมน้ำมะขามเปียก 1 ชาม แล้วแม่ทำการอยู่ไฟ
ลักษณะท่าทางเด็กตอนคลอด
ตั้งแต่เคลื่อนจากมดลูกจนเด็กคลอดออกมา
เรียกว่า ตกฟาก มี 3 แบบ คือ
1.ท่าคว่ำหน้าออก
เป็นท่าปกติในการคลอด
2. ท่าหงายหน้าออก
เป็นท่าปกติในการคลอด แต่ต้องรีบคว่ำหน้าเด็กลงเพื่อไม่ให้น้ำคร่ำเข้าคอเด็กทำให้เด็กสำลัก
3.ท่าเอาก้น
ขาหรือเท้าออก
เป็นการคลอดที่ยากเพราะทารกไม่ยอมกลับหัว คือ
ส่วนนำ ของลูกไม่ใช่ศีรษะ แต่เป็นก้นหรือเท้าแทน โอกาสการเสียชีวิตค่อนข้างสูง
กรณีพิเศษ ท่าเอามือ และแขนออก
ไม่สามารถทำคลอดท่านี้ได้ด้วยวิธีหมอตำแย
สาเหตุเกิดจากการแต่งท้องมากเกินไป ทำให้ศีรษะทารกพลาดจากช่องคลอด
แขนจึงเคลื่อนมาที่ช่องคลอด และออกมา ถ้าจะช่วยโดยให้แขนเข้าไปตามเดิม
เพราะทารกจะกลับเองไม่ได้ ต้องรู้ว่าถ้ามือคว่ำตัวทารกคว่ำ มือหงายตัวทารกหงาย
ถ้าข้อเข่าพับเท้าจะอยู่ที่ก้น ทารกจะคลอดออกมาไม่ได้ คล้ายกับทารกขวางตัว
ทำให้เกิดการเสียชีวิตทั้งแม่และเด็ก
การดูแลเด็กระยะหลังคลอด
เด็กที่คลอดลงมาถึงพื้น
เรียกว่าตกฟาก หมอตำแยรีบเอาผ้าห่อทันที แล้วจะควํ่าเด็ก
ล้วงควักเอาเมือกออกจากปากเด็ก แล้วจัดการให้เด็กร้องอุแว้
หลังจากนั้นพาเด็กไปอาบน้ำ
หมอตำแยจะนั่งเหยียดขาทั้งสองไปข้างหน้าวางตัวเด็กบนข้างทั้งสองข้างโดยหันศีรษะไปทางปลายเท้าดัดแขนดัดขาจะทำให้แขนอ่อนขาตรงแล้วชำระล้างร่างกายเด็กด้วยน้ำอุ่น
เมื่อแต่งตัวให้เด็กแล้ว จะวางเด็กบนกระด้งซึ่งปูผ้าหรือเบาะไว้
ถ้าเป็นเด็กชายวางสมุดดินสอไว้ข้างๆเผื่อจะได้เป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต
ส่วนเด็กหญิงจะใส่ด้ายเข็มจะได้เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดี
แล้วนำมาเข้าพิธีร่อนกระด้ง
เป็นพิธีประกาศความเป็นเจ้าของในตัวเด็ก หมอตำแยจะยกกระด้งขึ้นร่อนเบาๆ ทำสามครั้ง
พูดว่า “สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใครรับไปเน้อ” ซึ่งจะให้หญิงประพฤติดีและเลี้ยงลูกง่ายมาคอยขานรับว่า
“ลูกฉันเองๆ” แล้วจ่ายเงินแก่หมอตำแยพอเป็นพิธี
ส่วนรกเด็กนำไปคลุกกับพริกไทยป่นและเกลือใส่หม้อดินนำไปฝังขึ้นอยู่กับความเชื่อท้องถิ่นนั้นๆ
เช่น
ฝังใต้ต้นส้มเชื่อว่าเด็กจะฉลาดหรือฝังทางทิศตะวันออกหรือตรงหัวบันไดบ้านเชื่อว่าเด็กเกิดมาจะไม่ทิ้งบ้าน
และ ฝังตามวันเกิด
การตัดสายสะดือและอาบน้ำเด็ก
การร่อนกระด้ง