...ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์...


วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สรุปผลการศึกษา

จากการศึกษาค้นคว้า เรื่อง ภูมิปัญญาของหมอตำแย คณะผู้จัดทำวิเคราะห์ได้ว่า ภูมิปัญญาของหมอตำแยนั้นลดลงจากในอดีต เนื่องจากการแพทย์เจริญก้าวหน้ามีโรงพยาบาลศูนย์รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย คนนิยมไปทำคลอดที่โรงพยาบาล  จากที่อดีตหมอตำแยจะใช้ภูมิปัญญาดูแลแม่และเด็กตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ตอนคลอด และดูแลหลังคลอด แต่ในปัจจุบันภูมิปัญญาหมอตำแยมีการลดบทบาทในการทำคลอดลง เหลือเพียงพื้นที่ชนบทห่างไกลความเจริญ เช่น ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ที่หมอตำแยยังมีบทบาทในการทำคลอด 
ที่มา: มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม
ส่วนผู้ที่เข้ามาแทนที่บทบาทหมอตำแยในการทำคลอด คือ สูตินารีแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาตลอดการตั้งครรภ์ อีกทั้งยังมีทางเลือกมากมายในการลดความเจ็บปวด ดังต่อไปนี้  
1.คลอดธรรมชาติ 
2.ผ่าตัดคลอด 
3.การคลอดในน้ำ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมาก ๆ ในต่างประเทศ และกำลังเข้ามาในประเทศไทย เช่น คุณกุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ที่คลอดเองธรรมชาติในน้ำ โดยไม่มีการวางยา บล็อคหลังใดๆทั้งสิ้น 
ในต่างประเทศอาจเลือกทำคลอดที่บ้านได้แต่สำหรับประเทศไทยส่วนใหญ่จะเลือกการทำคลอดที่โรงพยาบาล ซึ่งมีแต่ละวิธีนั้นก็มีความปลอดภัยไม่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
ส่วนภูมิปัญญาการดูแลแม่และเด็กหลังคลอดของหมอตำแยในปัจจุบันยังคงอยู่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่น การอยู่ไฟ, การประคบสมุนไพรด้วยลูกประคบ, การนั่งถ่าน ฯลฯ สิ่งที่แตกต่างระหว่างอดีตกับปัจจุบัน คือ อุปกรณ์ที่ใช้ ได้มีการประยุกต์และพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน มีผู้คนสนใจศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อนำไปประกอบอาชีพ เช่น บริการอยู่ไฟนอกสถานที่หรือบริการถึงบ้าน ,การนวดประคบสมุนไพร, บริการตามร้านเสริมสวย คลินิกแพทย์แผนไทย สปา ฯลฯ อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เช่น โครงการสร้างเสริมสุขภาพและการดูแลอนามัยมารดาและทารกชาวไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนใต้โดยความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลเป็นผู้ทำคลอดกับหมอตำแยผู้ดูแลแม่ช่วงหลังคลอด เป็นต้น จึงทำให้ภูมิปัญญาของหมอตำแยเป็นความรู้ที่พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น