...ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์...


วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทสัมภาษณ์

สัมภาษณ์อาสาสมัครผู้เป็นอดีตหมอตำแย
1.ชื่อ อายุ ปัจจุบันทำประกอบอาชีพอะไร
          ชื่อ นางสมศรี สมบูรณ์ อายุ 62 ปี อาชีพ: ที่ปรึกษาทางบัญชี”

2.ประสบการณ์          
               “ป้าเคยไปเป็นอาสาสมัครที่เขตพัทลุง ตรัง และสตูล เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เพราะเป็นเขตพื้นที่ที่อันตราย ป้าได้ทำคลอดเด็กมามากกว่า 10 คน หลังจากนั้นก็ได้ไปเรียนแพทย์แผนไทยเพื่อได้ใบประกอบโรคศิลป์ เพื่อจะปฏิบัติงานได้ แต่การเรียนภาคผดุงครรภ์แผนไทยไม่มีอาจารย์สอน มีแต่ตำราทฤษฎีและการสอบใบประกอบโรคศิลป์ ป้าก็ใช้ความรู้ที่ได้ปฏิบัติจริงมาทำความเข้าใจแล้วนำไปสอบ แล้วได้ใบออกมา หลังจากนั้นป้าได้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังที่เรียนผดุงครรภ์แผนไทยอยู่ในสมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแห่งประเทศไทย แล้วหลังจากที่ได้เรียนแพทย์แผนจีน ป้าถนัดด้านการฝังเข็ม”

3.การทำคลอด
              ต้องใช้น้ำต้มในการทำความสะอาดต่างๆ การคลอดธรรมดาคุณแม่จะเบ่งเองเด็กจะเคลื่อนตัวมาที่ปากมดลูก พอช่องคลอดขยายขึ้นคนเป็นหมอต้องกดไว้ที่ฝีเย็บ ฝีเย็บคือระหว่างช่องคลอดกับช่องทวารหนักฝีเย็บจะฉีกขาด หมอเป็นผู้ช่วยที่จะประคองไม่ให้ฉีกขาด แล้วกดเพื่อให้เด็กเงยชันหัวขึ้นเพราะเด็กจะก้มลงดันผนัง หมอจะมีวิธีกดเพื่อให้เงยแล้วเด็กจะลื่นออกมา เราต้องพลิกตัวเด็กตะแคงอย่าให้หงายเพราะน้ำคร่ำจะเข้าปากสำลัก จับขาเล็กห้อยหัวลงแล้วตีก้นเพื่อให้เด็กคลายน้ำออกมา ใช้ไม้ไผ่ตัดสายสะดือ เด็กส่งเสียงร้องออกมา คือปอดทำงานแล้ว ที่ฝีเย็บเอาไม้ไผ่ 2 อันคีบแล้วผูกหัวท้ายค้างไว้ 2-3 วันเพื่อให้เนื้อสมานกัน”

4.หลังการทำคลอดมีการอยู่ไฟไหม
              มีการอยู่ไฟโดยการนั่งถ่านจะเป็นเก้าอี้มีวงกลมๆมีเตาเพื่อรมช่องคลอดแต่บางที่ให้นอนบนแคร่แล้วข้างใต้รมเหมือนกัน บางที่เอากองไฟไว้ข้างๆ ทุกวิธีต้องการให้คุณแม่ขับของเสียให้ออกมากที่สุด ซึ่งการดูแลหลังคลอดฝรั่งชอบมากแล้วส่งคนมาเรียนเพื่อกลับไปดูแลคนคลอดลูกที่ต่างประเทศ ภูมิปัญญาหลังคลอดบ้านเราใช้ได้และเป็นอาชีพในปัจจุบัน”

5.คิดว่าในปัจจุบันหมอตำแยยังมีอยู่ไหม
             มีแต่อยู่ในเขตชนบทลึกๆที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้ ที่ป้ารู้คือ อ.อุ้มผาง จังหวัด ตาก เขตแม่จันทะ”


สัมภาษณ์อดีตผู้ช่วยหมอตำแย
1.ชื่อ อายุ ปัจจุบันทำประกอบอาชีพอะไร
                 “ชื่อ นางสำรวย ฟักอุดม อายุ 75 ปี อาชีพ:จำหน่ายสินค้าสมุนไพรแม่สำรวย”

2.ประสบการณ์
              “
แม่ของยายเป็นหมอตำแย พ่อเป็นหมอยา หมอยาไม่ได้ทำคลอด สมัยนั้น 70 ปีที่แล้วไม่มีโรงพยาบาลใครจะคลอดต้องมาตามแม่ ตอนเด็กยายก็ช่วยแม่กับพ่อเก็บสมุนไพรจากป่าปรุงยารักษาโรคทำลูกประคบสำหรับคนคลอดลูก เป็นผู้ช่วยแม่ตอนทำคลอด ตั้งแต่จำความได้แต่พอต้องเรียนก็เข้าเมืองไปเรียนไม่ได้ช่วยทำคลอดอีกเลย”
3.
การทำคลอด
                “
ยายเป็นผู้ช่วยของแม่ ช่วยต้มน้ำเอาไว้ล้างมือ ล้างตัวเด็ก น้ำต้มถือว่าสะอาดแล้ว และมีการใช้ผ้าพาดลงจากคานให้แม่ดึงเพื่อเบ่ง แล้วแม่ยายก็คลำท้องเพื่อดูหัวเด็กว่ากลับหัวรึยัง แล้วก็เป็นหน้าที่แม่เด็กที่จะเบ่งออกมา ส่วนยายก็เป็นกำลังใจ จนเด็กคลอดออกมาใช้ไม้ไผ่ตัดสายสะดือ ถ้ารกไม่หลุดออกมาก็ใช้สารส้มยัดเข้าไป แล้วสักพักรกก็หลุด ให้แม่เด็กพัก ก็ช่วยดูแลหลังคลอดอีก”
4.หลังการทำคลอดต้องทำอย่างไรบ้าง
จะมีการนวดประคบด้วยลูกประคบหรือการอบตัวโดยนำสมุนไพรไปต้มแล้วเอาผ้าคลุมอบตัว มีการใช้สมุนไพรพวกไพร ขมิ้น ข่า ตะไคร้ใบมะขาม ใบสมปอย และอีกเยอะ เพื่อบรรเทาความปวดเมื่อย ให้เลือดลมเดินสะดวก ไม่ก็นอนอยู่ไฟข้างกองไฟ”
5.คิดว่าในปัจจุบันหมอตำแยยังมีอยู่ไหม
มีอยู่แต่ไม่ได้ทำคลอดแล้วไปเป็นหมอประยุกต์ดูแลแม่หลังคลอดโดยรับอยู่ไฟบ้าง ขายลูกประคบสมุนไพร อย่างที่โรงพยาบาลหนองแคก็มาเอาของยายไปไว้บริการหลังคลอดให้กับแม่ที่มาคลอด ยายก็อยู่กลุ่มแม่บ้านชุมชนบ้านหนองจิก ทำยาสมุนไพร ทำลูกประคบ สมุนไพรอบตัวจากภูมิปัญญาพื้นบ้านมาขายเป็นของOTOP แม้ยายไม่สามารถทำคลอดได้แต่ก็ยังสืบทอดความรู้ของพ่อแม่ยายในการดูแลหลังคลอดไว้ได้ ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น